วิสกี้ (Whisky) แบ่งได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่
- สก๊อต วิสกี้ (Scotch Whisky)
เป็นวิสกี้ที่ผลิตจากประเทศ สก๊อตแลนด์ ที่ผลิตจากเมล็ดข้าวชนิดอื่น ๆ เช่น ข้าวเมซ (Maize), ข้าวไรน์ (Rye) ไม่ได้ใช้ข้าวบาร์เลย์เป็นวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว วิสกี้ประเภทนี้เมื่อเปรียบเทียบกับมอลท์วิสกี้แล้ว วิสกี้ประเภทนี้จะมีการผลิตและการจำหน่ายมากกว่า แต่ถ้าเปรียบเทียบถึงคุณภาพแล้วมอลท์วิสกี้จะมีคุณภาพดีกว่า เพราะวัตถุดิบที่นำมาผลิตมอลท์วิสกี้ดีกว่า และระยะเวลาในการบ่มก็มากกว่า แต่สำหรับขบวนการผลิตเกรนวิสกี้นั้นจะใช้ขั้นตอนการกลั่นแบบ The Patent Still Process ซึ่งการกลั่นแบบนี้จะรวดเร็ว และได้ปริมาณแอลกอฮอล์สูง
ในการผลิตวิสกี้ของประเทศสกอตแลนด์ นอกจากจะมีมอล์วิสกี่ และเกรนวิสกี้แล้ว ยังมีเบลนวิสกี้ (Blended Whisky) ที่นิยมผลิตโดยอาจจะนำเอามอลท์วิสกี้ และเกรนวิสกี้มาผสมกัน ซึ่งได้วิสกี้ที่มีสี กลิ่น และรสชาติเฉพาะตัวไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของมอลท์วิสกี้ และเกรนวิสกี้ที่นำมาผสมกัน
สำหรับวิสกี้ของประเทศสกอตแลนด์ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็น Blended Whisky และวิสกี้ของประเทศสกอตแลนด์ที่มีจำหน่ายและมีชื่อเสียงมีอยู่มากมาย เช่น
Johnnie Walker
Chivas Regal
Dewars
Glenlivet
- ไอริช วิสกี้ (Irish Whisky)
เป็นวิสกี้ที่ผลิตจากประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นวิสกี้ที่มีคนเชื่อกันว่าเป็นวิสกี้ที่ได้จากการกลั่นของการหมักของมันฝรั่ง เนื่องจากว่าในประเทศไอร์แลนด์ คนส่วนใหญ่จะกินมันฝรั่งเป็นอาหาร แต่ตามความเป็นจริงแล้วไอริชวิสกี้ไม่ได้ใช้มันฝรั่งเป็นวัตถุดิบในการผลิต แต่จะใช้พวกเมล็ดข้าวเป็นวัตถุดิบในการผลิตเหมือนกับวิสกี้ที่ผลิตในประเทศอื่น ๆ กล่าวคือ ไอริชวิสกี้จะใช้เมล็ดข้าวบาร์เลย์, ข้าวโพด, ข้าวไรน์ และเมล็ดข้าวอื่น ๆ ในการหมัก สำหรับวิธีการหลั่นในการผลิตไอริชวิสกี้จะใช้แบบ The Patent Still Process ส่วนระยะเวลาในการบ่มของไอริชวิสกี้ก่อนที่จะส่งออกจำหน่ายจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 ปีหรือมากกว่า จึงทำให้ไอริชวิสกี้มีรสชาตินุ่ม เนื่องจากระยะเวลาในการบ่มนานพอสมควร
สำหรับไอริชวิสกี้ที่มีจำหน่ายและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในประเทศไทยจะมีอยู่น้อยมากไม่กี่ยี่ห้อที่มีขาย ได้แก่
John Jameson
John Power
- เบอร์เบิน วิสกี้ (Bourbon Whiskey)
วิสกี้ที่ผลิตในประเทศอเมริกา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างยิ่ง ชาวอเมริกันเรียกวิสกี้ของพวกเค้าว่า “เบอร์เบิ้น” บรรดา ” คอสุรา ” ต่างรู้จัก เบอร์เบิ้น กันเป็นอย่างดี ด้วยกลิ่นรสอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสร้างบุคลิกให้ เบอร์เบิ้น กลายเป็นเครื่องดื่มแอลกฮอล์ที่หากใคร ไม่ รัก ก็มักจะ ชัง ไปเลย ไม่มีอารมณ์กลางๆ แบบ ยังไงก็ได้
ตามกฎหมายของสหรัฐที่ระบุไว้ว่า ” เบอร์เบิ้น ” จะต้องกลั่นจากการคลุกเคล้าวัตถุดิบที่มีข้าวโพดยืนพื้นอยู่อย่างน้อย 51 เปอร์เซ็นต์( โดยส่วนใหญ่จะอยู่ราวๆ 65-75 เปอร์เซ็นต์ ) นอกจากนี้ คือ ส่วนผสมของข้าวสาลี ข้าว บาร์เลย์ และข้าวไรย์
ความหนานนุ่มละมันลิ้นของ “เบอร์เบิ้น ” จะได้มาจากข้าวโพด โดย ” เบอร์เบิ้น ” จะได้รับการกลั่นออกมาก่อนที่จะนำเข้าไปหมักบ่มในถังไม้โอ๊กสีขาวใหม่ๆ ขนาดใหญ่ ใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี ยิ่งทิ้งไว้นาน ” เบอร์เบิ้น ” ก็จะมีกลิ่นรสของถังไม้โอ๊กอันเป็นเอกลักษณ์อย่างที่นักดื่มถวิลหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ” เบอร์เบิ้น” ที่หมักบ่มไว้ในถังไม้โอ๊กนานถึง 25 ปี ตามสูตรอันเป็นสุดยอดของสุราชนิดนี้ จะยิ่งให้รสชาติที่นุ่มนวลและสมดุล ( ทางสหรัฐอเมริกาห้ามการผลิต ” เบอร์เบิ้น ” ยี่ห้อต่างประเทศในพื้นที่สหรัฐอเมริกาด้วย
อเมริกันวิสกี้ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยและที่มีชื่อเสียงพอสมควรเป็นที่นิยมของนักดื่มได้แก่
Jim Beam
Jack Daniel’s
- คานาเดี้ยน วิสกี้ (Canadian Whisky)
เป็นวิสกี้ที่ผลิตจากประเทศแคนาดา โดยใช้เมล็ดข้าวไรน์, ข้าวโพด, ข้าวสาลี และข้าวบาร์เลย์ เป็นวัตถุดิบที่ใช้หมักผสมกันโดยอัตราส่วนตามแต่ผู้ผลิต แต่แคนาเดียนวิสกี้มีคนเป็นจำนวนมากที่เชื่อว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตนั้นจะเป็นเมล็ดข้าวไรน์มากที่สุด จึงทำให้วิสกี้ชนิดนี้ถูกเรียกว่าเป็นไรน์วิสกี้ชนิดหนึ่ง สำหรับขบวนการและวิธีการผลิตของวิสกี้ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะคล้ายกับวิสกี้ที่ผลิตจากประเทศอเมริกา แต่จะแตกต่างกันเฉพาะระยะเวลาที่ใช้ในการบ่ม ก่อนที่จะบรรจุขวดออกจำหน่าย กล่าวคือ ถ้าเป็นแคนาเดียนวิสกี้ระยะเวลาในการบ่มก่อนที่จะส่งออกจำหน่ายนั้นอย่างน้อย 6 ปี หรืออาจจะมากกว่า สำหรับปริมาณแอลกอฮอล์ของแคนาเดียนวิสกี้จะประมาณ 86 – 90 Proof
ประเทศแคนาดา นอกจากจะมีการผลิตแคนาเดียนวิสกี้ แล้วยังมีการผลิตวิสกี้ที่เรียกว่า Blended Canadian Whiskey ด้วย สำหรับแคนาเดียนวิสกี้และเบลนแคนาเดียนวิสกี้ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย และเป็นที่รู้จักของนักดื่มทั่ว ๆ ไปได้แก่
Canadian Club
Winsor Canadian
วิกิพีเดีย . 7 มีนาคม 2558 . วิสกี้ . สืบค้นมาจาก https://th.wikipedia.org/wiki/วิสกี้